พอเริ่มลงทุนจริงๆ ก็รู้สึกว่าตัวเองไม่รู้เรื่องคุณค่าของเงินเลยจริงๆ
เพราะเงินเดือนมากกว่า 10 บาท หลายสิบ หลายร้อยเท่า เลยคิดว่า 10 บาท ไม่ค่อยมีค่าหรือเปล่า?
เงิน 1 บาท ที่น้อยกว่า 10 บาท ก็คงไม่ได้รับการดูแลที่ดีเท่าไหร่
เพราะงั้น เงินที่ได้มาง่ายๆ ก็เลยคิดว่ามันง่ายๆ ไปด้วย
ไม่ว่าจะเป็น 1 บาท 10 บาท หรือหลายล้านบาท ทำไมตอนนั้นถึงไม่รู้ว่ามันคือเงินเหมือนกัน...
เงินไม่มีป้ายชื่อ แต่เราก็บอกป้ายชื่อให้เงินเหมือนติดป้ายชื่อกับเงิน เหมือนกับความพยายามที่เราทุ่มเทเพื่อให้ได้เงินมา
ถ้าลองเปรียบเทียบวิธีต่างๆ ในการหาเงิน 10 บาท อาจจะช่วยให้เราลบความคิดแบบนี้ได้นะ?!
ลองมาเปรียบเทียบกันตั้งแต่การลงทุนที่สนใจ ไปจนถึงเกมออนไลน์เลย
งานพาร์ทไทม์ (ค่าแรงชั่วโมงละ 10 บาท)
หาพาร์ทไทม์ที่ "ดีมาก" ที่จ่ายค่าแรงชั่วโมงละ 10 บาท ถ้าทำงาน 1 ชั่วโมงก็ได้เงิน 10 บาท
เราต้องใช้เวลา แรงกาย และจิตใจ ทุ่มเทเพื่อแลกกับเงิน เพราะเป็นการแปลงความพยายามและเวลาของเราเป็นเงิน
ถ้ารวมเวลาเตรียมตัวไปทำงาน และเดินทางไป-กลับ ก็ต้องใช้เวลาและแรงกายมากขึ้นไปอีก
ผู้ขายในคูปอง
เรียกการขายสินค้าหรือบริการผ่านตลาดออนไลน์รวมๆ ว่า ผู้ขายในคูปอง
ถึงแม้จะไม่มีสินค้าเป็นของตัวเอง แต่ถ้าทำการตลาดได้ดี ก็สามารถหาเงิน 10 บาทได้จากงานลักษณะเดียวกับผู้ขายในคูปอง
กำไร 3% ดังนั้นเราต้องสร้างยอดขายประมาณ 340,000 บาท
ต้องทำการตลาด ก็เลยต้องใช้เวลา แรงกาย และจิตใจ
แต่ถ้าเทียบกับงานพาร์ทไทม์แล้ว ดูเหมือนว่าจะใช้เวลาน้อยกว่า และใช้แรงกายน้อยกว่า
ถ้าทำได้ ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นวิธีที่ดีกว่างานพาร์ทไทม์
บล็อก / ยูทูป
คิดอยู่นานเหมือนกันว่าจะรวมสองอันนี้เข้าด้วยกันดีไหม
ให้ข้อมูลเพื่อช่วยลดเวลาและความพยายามของคนอื่น แล้วเราจะได้เงิน 10 บาท
เพราะชอบอาชีพนักเขียนรึเปล่า
เพราะคิดว่าเป็นการกระทำในเชิงบวก ที่ให้ข้อมูลที่ดีกว่า เลยรู้สึกว่าดีกว่าวิธีอื่นๆ
ตั้งแต่ตรงนี้เป็นต้นไป ผมคิดว่าเป็นการสร้าง "แฟนคลับ" ของตัวเอง
ถึงแม้จะเคยล้มเหลวและท้อแท้มาบ้าง แต่ก็ยังคงพยายามอยู่
เมเปิ้ล สกาเนีย 400 ล้านเมโซ
เคยเล่นเมเปิ้ล 던파 (Dungeon Fighter Online) และ Ragnarok Online สมัยก่อน
ทางบริษัทเกมพยายามปราบปรามการแลกเปลี่ยนเงินจริงกับเงินในเกม
แต่ก็ยังมีการแลกเปลี่ยนเงินในเกมเป็นเงินจริง ผ่านเว็บไซต์ซื้อขายไอเท็มอยู่ดี
ที่น่าสนใจคือ เงินในเกมไม่เหมือนเงินจริง เพราะเงินในเกมหายไปเร็วกว่าที่สร้างได้
เลยทำให้เราได้เห็นภาวะเงินเฟ้อได้ง่ายๆ และราคาของไอเท็มก็เปลี่ยนแปลงบ่อย
ดูเหมือนว่าจะเริ่มแนะนำวิธีที่ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ทำไมถึงพูดถึงเงินในเกมขึ้นมาล่ะ?
คิดว่าตัวเองก็อยากเป็นที่หนึ่งในโลกออนไลน์เหมือนตอนเด็กๆ ด้วย
และถ้าหาเงินจากเงินในเกม ก็รู้สึกเหมือนกับว่าได้เงินมาง่ายๆ เหมือนกับติดป้ายชื่อให้กับมัน
ปกติแล้ว เล่นเกม 1 ชั่วโมงจะหาเงินจากงานพาร์ทไทม์ได้ 10 บาทไม่ได้ ดังนั้น การหาเงินจากเกมจึงเป็นเรื่องโง่ๆ แต่...
บางเกมถ้ามีตัวละครและอุปกรณ์ที่พร้อมแล้ว
ก็มีโอกาสได้ไอเท็มราคาแพงมาก
ผมคิดว่ามันเหมือนกับการซื้อลอตเตอรี่
ส่วนใหญ่ก็คงจะไม่ถูก แต่ก็มีโอกาสที่จะถูกบ้าง
(สมัยก่อนรู้สึกว่า TalesWeaver หรือ Ragnarok Online มีโอกาสแบบนั้น แต่ตอนนี้มันนานเกินไปแล้วรึเปล่า)
ดอกเบี้ยเงินฝาก
จะต้องฝากเงินเท่าไหร่ถึงจะได้ดอกเบี้ย 10 บาท?
ยุคดอกเบี้ยเป็นศูนย์ หรือแม้กระทั่งดอกเบี้ยติดลบ เราต้องฝากเงินเยอะมากถึงจะได้เงิน 10 บาท
เซฟบ็อกซ์ของธนาคารกากาโอ เป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจมาก ดอกเบี้ย 0.5% ต่อปี ก่อนหักภาษี (วงเงิน 10 ล้านบาท)
เดือนละ 3,525 บาท ดังนั้น 3 เดือนก็ได้ 10 บาทแล้ว
นั่นหมายความว่า ถ้าฝากเงิน 10 ล้านบาทไว้ในเซฟบ็อกซ์ 3 เดือน ก็ได้เงิน 10 บาท
ดูเหมือนว่าเราจะไม่ต้องพิจารณาธนาคารแล้ว
อสังหาริมทรัพย์
ตำนานอสังหาริมทรัพย์จะอยู่ยั่งยืนไปอีกนานแค่ไหน?!
ถึงแม้ว่าตลาดจะขึ้นๆ ลงๆ แต่ตอนนี้ยังคงคิดว่าเป็นช่วงขาขึ้นอยู่
วิธีการก่อนหน้านี้ ต้องใช้เวลา ความพยายาม หรือฝากเงินจำนวนมากถึงจะได้เงิน 10 บาท
แต่การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล และใช้เวลานานกว่านั้น
(แต่ถ้าใช้เลเวอเรจ ก็สามารถลดเงินลงทุนลง และลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ)
การพูดถึงอสังหาริมทรัพย์ขณะที่กำลังพูดถึงคุณค่าของ 10 บาท อาจจะไม่เหมาะสมเท่าไหร่
แต่ผมคิดว่าเป็นวิธีการลงทุนที่ดีวิธีหนึ่ง เลยเขียนไว้เล็กน้อย
ถ้าลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ได้ดี ก็จะได้เงินมากกว่า 10 บาทมาก
หุ้น
หุ้นเป็นเสาหลักของการลงทุนคู่กับอสังหาริมทรัพย์ เราสามารถหาเงิน 10 บาทได้จากการลงทุนในหุ้นเช่นกัน
ซื้อถูก ขายแพง
แต่การทำแบบนั้นมันยากมาก จึงทำให้การลงทุนในหุ้นถูกเปรียบเทียบกับการเก็งกำไร
แต่ถ้าดูจากตัวเลขแล้ว ถ้าลงทุน 1 ล้านบาท ได้กำไร 1% กว่าๆ ก็จะได้เงิน 10 บาท หลังหักค่าธรรมเนียม
ถ้าเงินลงทุนน้อย ลงทุน 100,000 บาท ก็ต้องได้กำไร 10% กว่าๆ
การลงทุนในหุ้นก็ต้องใช้เวลา ความพยายาม และเงินลงทุน
ดังนั้น ผู้ที่เก่งๆ จึงพยายามคิดหาวิธีที่จะลดเวลาและความพยายามในการลงทุน
(ถึงแม้ว่าการคิดแบบนั้นจะต้องใช้เวลาในการเรียนรู้และคิดมากมาย 555)
สายพานเงิน
อย่างที่ชื่อบอกเลย สร้างสายพานเงินที่สร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง ก็จะได้เงิน 10 บาท
ถ้าสร้างสายพานเงินที่มีประสิทธิภาพสูง ก็จะได้เงินเยอะแม้จะลงทุนน้อย
แต่ถ้าสร้างสายพานเงินที่ไม่มีประสิทธิภาพ ก็จะได้เงินน้อยแม้จะลงทุนเยอะ
หัวใจสำคัญคือ สายพานเงินที่ดีนั้น ไม่ต้องใช้เวลาและความพยายามในการลงทุน
เซฟบ็อกซ์ของธนาคารกากาโอ ที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ ก็เป็นสายพานเงินเช่นกัน
ลงทุนได้สูงสุด 10 ล้านบาท ได้ผลลัพธ์คือดอกเบี้ย 0.5% ต่อปี ก่อนหักภาษี
เราจะใช้สายพานเงินนี้หรือไม่นั้น
ขึ้นอยู่กับว่าเรามีสายพานเงินที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าหรือไม่
ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ คงจะคิดว่าถ้าใช้เงิน 10 ล้านบาทลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ จะได้กำไรมากกว่านั้น
ผู้เชี่ยวชาญด้านหุ้น คงจะคิดว่าถ้าใช้เงิน 10 ล้านบาทลงทุนในหุ้น จะได้กำไรมากกว่านั้น
พวกเขาก็สามารถใช้เซฟบ็อกซ์ได้ แต่เนื่องจากมีสายพานเงินที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า จึงไม่ใช้
ส่วนตัวแล้ว เป้าหมายสูงสุดคือการสร้างสายพานเงินแบบนี้ด้วยการสร้างเว็บเซอร์วิส 😉
สรุป
ตอนนี้ผมหาเงิน 10 บาทด้วยการ
ทำงานเป็นลูกจ้างประจำ ใช้เวลาและความพยายามแลกกับเงิน 10 บาท
ศึกษาหาความรู้และเก็บเงินไปลงทุนในหุ้น เพื่อหาเงิน 10 บาท
โดยเฉพาะการลงทุนในหุ้นแบบอัตโนมัติ ช่วยลดเวลาและความพยายามลง
และคาดหวังว่าเงินลงทุนจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงจะได้กำไรเพิ่มขึ้นด้วย
ผมจะใช้เวลาและเงินที่สะสมมา สร้างสายพานเงินของตัวเองในขั้นต่อไป
แต่เป้าหมายยังไม่บรรลุ เพราะระบบการลงทุนในหุ้นที่สร้างขึ้นยังไม่ผ่านการพิสูจน์ ต้องใช้เวลาอีกสักหน่อย
ถึงอย่างนั้น ผมก็จะปลอบใจและให้กำลังใจตัวเอง แล้วก็จะพยายามต่อไป
ความคิดเห็น0